Monday, May 25, 2009

วิธีต้มปลาให้ก้างยุ่ย

วิธีต้มปลา

  • บ้านไหนที่ชอบทานปลา แล้วเบื่อกับการต้องเอาก้างออก วันนี้เดลินิวส์ออนไลน์มีวิธีต้มปลาให้ก้างยุ่ยมาบอก....
  • วิธีต้มปลาให้เนื้อแข็งแล้วก้างอ่อนยุ่ยเหมือนก้างปลากระป๋อง คือ นำอ้อยมาปอกเปลือกข้างนอกออกแล้วตัดเป็นเสี้ยวเล็ก ๆ นำมาวางเรียงในหม้อที่จะใช้ต้มปลา จากนั้นนำปลามาวางทับแล้วเติมน้ำลงไปพอประมาณนำไปตั้งไฟสัก 40 นาที เราจะสังเกตได้ว่าปลานั้นตัวแข็งอยู่เหมือนเดิม เนื้อไม่เละ แล้วยังเก็บไว้ได้นานอีกด้วย
  • ถ้าอยากทานปลาอร่อย ๆ ก็ลองนำวิธีนี้ไปทำทานกันได้.

Saturday, May 9, 2009

'ปลาดุกเส้น' แปรรูปเด่น-ราคาดี !!

'ปลาดุกเส้น' แปรรูปเด่น-ราคาดี !!

ปลา แปรรูปก็ถือว่าเป็นอาหารนิยมของคนไทยรูปแบบหนึ่ง ลักษณะและรสชาติก็แตกต่างกันไปตามรสนิยมแต่ละท้องถิ่น ซึ่งนอกจากจะเป็นเก็บรักษาอาหารให้อยู่ได้นานแล้ว ยังทำให้เกิดมูลค่าเพิ่ม เป็น “ช่องทางทำกิน” ที่ดีได้ด้วย อย่างการแปรรูป ทำ “ปลาดุกเส้น” ของกลุ่มแม่บ้านชุมชนบ้านคอนสาย...

สุดใจ กองหิน ประธานกลุ่มแม่บ้าน บ้านคอนสาย ต.สามัคคี อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร เล่าว่า เดิมทีชาวบ้านในชุมชนมีอาชีพเลี้ยงปลาดุกขาย ในหมู่บ้านมีการเลี้ยงปลาดุกเพื่อส่งขายให้แก่ตลาดในพื้นที่และนอกพื้นที่ ใกล้เคียงกันอยู่เป็นจำนวนหลายสิบบ่อ แต่มีปัญหาคือบางครั้งปลาดุกมีปริมาณมากเกินความต้องการตลาด ทำให้ขายไม่หมด ซึ่งถ้าหากเลี้ยงดูในบ่อต่อไปก็ย่อมมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น อีกทั้งปลาดุกอาจจะตัวใหญ่เกินไป ทำให้ขายได้ยากขึ้น จึงคิดว่าน่าจะนำปลาดุกมาแปรรูป โดยมาสรุปที่การทำเป็น “ปลาดุกเส้น”

“การ แปรรูปปลาดุกเส้นนี้ เป็นการแก้ปัญหาของชุมชนในช่วงมีผลผลิตมากเกินความต้องการ ซึ่งถ้าเลี้ยงต่อไปจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น และเลี้ยงต่อไปจะขายไม่ค่อยได้ราคานัก เนื่องจากปลาดุกจะมีขนาดใหญ่เกินขนาดที่ตลาดต้องการ ก็เลยนำเรื่องการแปรรูปเข้ามาช่วยแก้ปัญหาตรงนี้”

ประธาน กลุ่มฯเล่าว่า เริ่มทำการแปรรูปปลาดุกที่เลี้ยงขายกันมาเมื่อต้นปี 2552 โดยปลาดุกเส้นเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทเนื้อกึ่งแห้ง ลักษณะภายนอกจะคล้ายกับหมูแดดเดียวหรือเนื้อแดดเดียว แต่มีความเหนียวน้อยกว่า สามารถใช้รับประทานเล่น ๆ เป็นกับแกล้ม หรือรับประทานกับข้าวได้ดี โดยตลาดส่วนใหญ่จะเป็นร้านค้าในชุมชน ตลาดในพื้นที่ รวมไปถึงการขายส่งให้พ่อค้ารับไปจำหน่ายต่อในพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งกำลังการผลิตจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความต้องการเพิ่มของตลาด แต่หลัก ๆ จะผลิตเพื่อจำหน่ายให้แก่คนในชุมชนและพื้นที่ใกล้เคียง โดยคงกำลังการผลิตไว้อยู่ที่ประมาณ 20 กิโลกรัมต่อวัน

ทุนเบื้องต้น ในการทำการแปรรูป เป็นทุนของทางกลุ่มเอง โดยใช้เงินลงทุนไปประมาณ 27,600 บาท ส่วนใหญ่เป็นค่าอุปกรณ์และบรรจุภัณฑ์ อุปกรณ์ที่จำเป็นก็จะมีหม้อสแตนเลส เบอร์ 38, กะละมังสแตนเลส และเตาอบ ส่วนทุนวัตถุดิบอยู่ที่ 60% ของราคาขาย โดยราคาขายอยู่ที่แพ็คละ 50 บาท แต่ถ้าหากขายเป็นกิโลกรัม จะอยู่ที่กิโลกรัมละ 300 บาท ถือเป็นมูลค่าที่เพิ่มขึ้นจากราคาจำหน่ายปลาดุกเป็น ๆ ซึ่งราคาปลาดุกเป็นจะขายกันอยู่ที่กิโลกรัมละ 50 บาทเท่านั้น

ส่วน ผสมในการทำปลาดุกเส้น ต่อ 12 กิโลกรัม ประกอบด้วย เนื้อปลาดุกล้วน 12 กิโลกรัม, เกลือ 5 ช้อนแกง, น้ำตาล 5 ช้อนแกง, ซีอิ้วขาว 20 ช้อนแกง, รากผักชีปั่นละเอียด 3 ช้อนแกง, พริกไทย 3 ช้อนแกง, น้ำขมิ้น 1 ถ้วยตวง, กระเทียมสดปอกเปลือกปั่นละเอียด 4 ขีด และงาขาวตามต้องการ

ขั้นตอน การทำ เริ่มจากนำปลาดุกขนาดที่เตรียมไว้ คือขนาด 7-8 ตัวต่อกิโลกรัม มาทำการตัดหัวควักไส้ ล้างให้สะอาด จากนั้นทำการแล่เนื้อปลาออกจากกระดูกหรือก้าง การหั่นเนื้อปลาดุกมีเคล็ดลับคือ ให้หั่นเป็นเส้นเฉียง ๆ ข้างลำตัว ขนาดประมาณ 1 เซนติเมตร เพราะจะทำให้เนื้อปลาไม่แยกออกจากกัน เวลาเนื้อปลาแห้ง ซึ่งปลาดุกสด 20 กิโลกรัม เมื่อแล่แล้วจะเหลือเนื้อปลาดุกล้วน ๆ ประมาณ 12 กิโลกรัม

เมื่อได้ เนื้อปลาแล้วให้ล้างด้วยน้ำซาวข้าว ล้างประมาณ 3 น้ำเพื่อให้กลิ่นคาวปลาหมดไป จากนั้นทำการหมักด้วยเครื่องปรุงรสที่เตรียมไว้ คือ เกลือ, น้ำตาล, ซีอิ้วขาว, รากผักชี, พริกไทย, น้ำขมิ้น, กระเทียมสด และงาขาว ทำการคลุกเคล้าให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที เพื่อให้เครื่องปรุงซึมเข้าเนื้อ แล้วนำไปผึ่งแดดทิ้งไว้ประมาณ ? วัน เสร็จแล้วนำมาอบด้วยเตาอบถ่านอีกประมาณ 10-20 นาที จากนั้นก็บรรจุหีบห่อพร้อมขาย เมื่อจะทานก็นำไปทอดในน้ำมันร้อน ๆ 2-3 นาที จะได้ปลาดุกเส้นที่สีสวยและเนื้อปลาไม่แข็งเกินไป

กลุ่มแม่บ้าน บ้านคอนสาย อยู่ที่หมู่ 5 ต.สามัคคี อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร โทร.08-3736-2404 โดยทีม “ช่องทางทำกิน” ได้ข้อมูล “ปลาดุกเส้น” มาตอนที่ร่วมคณะกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ไปดูงานพัฒนาท้องถิ่น สร้างความสมานฉันท์ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ซึ่งนี่ก็เป็นอีกหนึ่งอาชีพแปรรูปอาหารที่น่าสนใจ
ศิริโรจน์ ศิริแพทย์ :รายงาน


คู่มือลงทุน...ปลาดุกเส้น
ทุนเบื้องต้น ประมาณ 2-3 หมื่นบาท
ทุนวัตถุดิบ ประมาณ 60% จากราคา
รายได้ ขายราคา 300 บาท / กก.
แรงงาน 1-2 คนขึ้นไป
ตลาด ตลาดอาหาร, หาที่ขายส่ง
จุดน่าสนใจ คนทำขายยังมีไม่มากนัก